Reach Out I'll Be There ผสานเสียงอันไพเราะของร้องนำและคอรัสที่ทรงพลัง

Reach Out I'll Be There ผสานเสียงอันไพเราะของร้องนำและคอรัสที่ทรงพลัง

“Reach Out I’ll Be There” เป็นเพลงโซลอมตะของวงเดอะฟอร์ท็อปส์ (The Four Tops) ที่ปล่อยออกมาในปี 1966 เพลงนี้ได้ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ต Billboard Hot 100 และกลายเป็นเพลงคลาสสิกที่ได้รับการครอบคลุมโดยศิลปินมากมาย

วงเดอะฟอร์ท็อปส์ก่อตั้งขึ้นในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ในปี 1954 โดยมีสมาชิกดั้งเดิมคือ เลอโอนดาร์เรล (Levi Stubbs) อันโตนิโอ “โทนี่” บราวน์ (Antonio “Tony” Brown), เบอร์แทรนด์ แฮมิลตั้น (Bertram Hamilton), และโอเว่น ไวส์ (Owen Wisdom). พวกเขาเริ่มต้นด้วยการร้องเพลงโชว์ตามสถานที่ต่างๆ ในดีทรอยต์ และหลังจากนั้นไม่นานก็เซ็นสัญญากับโมทาวน์ เรเคิร์ด (Motown Records)

ในช่วงแรกวงเดอะฟอร์ท็อปส์ประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งปี 1964 พวกเขาได้ร่วมงานกับนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ชื่อดัง โฮเวิร์ด เดมอนด์ (Holland-Dozier-Holland) และเริ่มสร้างสรรค์เพลงฮิตที่ติดอันดับชาร์ตอย่างต่อเนื่อง

“Reach Out I’ll Be There” เป็นผลงานของทีมแต่งเพลง Holland-Dozier-Holland และถือเป็นหนึ่งในเพลงโซลที่โด่งดังที่สุดตลอดกาล เพลงนี้มีจังหวะช้า ๆ และมีเมโลดีที่ไพเราะ โดยร้องนำโดย เลอโอนดาร์เรล (Levi Stubbs) ที่มีน้ำเสียงอันทรงพลัง ส่วนคอรัสก็สร้างความสมบูรณ์แบบให้กับเพลงด้วยการขับร้องที่กลมกลืนและทรงพลัง

เนื้อหาของเพลงนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจและความต้องการที่จะช่วยเหลือคนที่กำลังทุกข์ “Reach Out I’ll Be There” เป็นเหมือนบทสนทนาเชิงรักษาใจจากผู้ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคนที่อกหัก

เพลงนี้ได้รับการตีพิมพ์ในรูปแบบของซิงเกิ้ลเมื่อเดือนมีนาคม 1966 และได้ขึ้นถึงอันดับหนึ่งบนชาร์ต Billboard Hot 100 ในเดือนพฤษภาคม ปีเดียวกัน นอกจากนี้ยังติดอันดับสูงสุดในชาร์ตเพลงหลายประเทศทั่วโลก

ความสำเร็จของ “Reach Out I’ll Be There” นำไปสู่การบันทึกเสียงและการเผยแพร่ของอัลบั้มชื่อเดียวกัน ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ขายดีที่สุดของวงเดอะฟอร์ท็อปส์

เพลงนี้ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ และถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์ โทรทัศน์ และโฆษณาต่างๆ

ความสำเร็จของ “Reach Out I’ll Be There” ในแง่มุมต่างๆ:

ด้าน รายละเอียด
ชาร์ตเพลง อันดับ 1 บน Billboard Hot 100
ยอดขาย ขายได้มากกว่าหนึ่งล้านแผ่นในสหรัฐอเมริกา
รางวัล ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Grammy Awards
การครอบคลุม ถูกนำมาทำใหม่โดยศิลปินหลากหลายแนวเพลง เช่น Aretha Franklin, Diana Ross และ The Temptations

“Reach Out I’ll Be There” เป็นเพลงที่ไม่เคยล้าสมัยและยังคงเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้ ความคลาสสิกของเพลงนี้อยู่ที่การผสานอย่างลงตัวระหว่างเสียงร้องอันทรงพลัง คำร้องที่มีความหมาย และดนตรีโซลที่ไพเราะ.